วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 19, 2560

แบบทรงผม 'เกรียน' ร.๑๐ ่พระราชทาน เอ่อปริ่มเน็ต

เรื่องของ ผม ไม่ใช่ คุณสุดสัปดาห์นี้มีรูป ทหารหญิงแห่งไตแลนเดียเอ่อปริ่มเน็ต นัยว่าเป็นตัวอย่างของทรงผมใหม่ เกรียน ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวองค์ที่ ๑๐ กรุงรัตนโกสินทร์

ตามสันนิษฐานของ Somsak Jeamteerasakul นักประวัติศาสตร์ลี้ภัยในฝรั่งเศส ว่าน่าจะมาจากพระราชปรารภว่า ถ้าทหารทั้งหมดในกองทัพไทย (โดยไม่ระบุเพศ) ตัดผมทรง พระราชนิยมแบบทหารราชวัลลภในพระองค์ คือด้านข้างเกรียนขาว ส่วนบนยาวเพียง ๒ ถึง ๓ เซ็นติเมตร “ก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อยดี”

จึงปรากฏมีคำสั่ง ด่วนที่สุดของหน่วยราชการด้านกำลังพลหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรวมถึงสำนักพระราชวัง ให้กวดขันการแต่งกายของเจ้าหน้าที่เวรประจำพระองค์ ทั้งเรื่องป้ายชื่อและทรงผม
โดยเฉพาะเกี่ยวกับทรงผมนั้น บ้างระบุเพียง ทรงผมตามพระราชนิยมโดยให้ “เทียบเคียงกับกำลังพลของ นถปภ. รอ. หรือ ฉก.๙๐๔ พล.๑ รอ.” (จาก กพ.ทบ.) บ้างบอกให้ “ตัดผมสั้นให้เรียบร้อย...ที่แสดงออกถึงความเป็นผู้มีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด” (ของ สตช.)

สำหรับกองทัพอากาศนั้นลงรายละเอียดเล็กน้อยเช่นเดียวกับ บก.ทท. ว่า “กำลังพลชาย ตัดผมข้างขาว ความยาวด้านบน ๒-๓ ซม.” แต่ก็ยังไม่เท่าสำนักพระราชวัง ที่กำหนดรายละเอียดเรื่องรองเท้าด้วยว่า “ชาย ร้องเท้าฮ้าร์ฟสีดำหุ้มข้อ...หญิง รองเท้าคัตชู รองเท้าฮ้าร์ฟต่ำสีดำ”

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแทบจะทุกหน่วยถือปฏิบัติตามพระราชปรารภ ไม่เพียง เจ้าหน้าที่เวรประจำพระองค์ จึงนับว่าเป็นการปฏิบัติตามพระราชวิเทโศบายในรัชกาลปัจจุบันอย่างมิเคยมาก่อน ในการลงรายละเอียด หรือที่ในการบริหารงานสาธารณะของประเทศตะวันตกมักเรียกวีธีการเช่นนี้ว่า ‘micromanagement’

นั่นเป็นต้นตอของการนำรูปทหารหญิงราชวัลลภที่ตัดผมสั้นเกรียนอย่างกำลังพลชายมาแชร์กันทั่วสื่อสังคมขณะนี้ นอกเหนือไปจากที่เป็นข่าวในสื่อกระแสหลัก เช่นรายงานของ นสพ. ข่าวสด เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน แจ้งว่า

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงแจ้งกำชับตำรวจฝ่ายปฏิบัติการพื้นที่ทุกนาย ต้องแต่งกายและตัดผมสั้นให้เรียบร้อย

...และให้นำไปเพิ่มเติมเป็นหัวข้อประเมินผลการปฏิบัติราชการประจำปี รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการควบคุมและเสริมสร้าง ความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจอีกส่วนหนึ่งด้วย”


ยังมีประเด็นที่ สศจ. ยกขึ้นมาจากการที่หน่วยราชการอันเกี่ยวข้องกับกิจการในพระองค์มีระเบียบปฏิบัติใหม่ๆ “พระราชทาน” ในรัชสมัยนี้ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน รวมทั้งท่าวันทยาหัตถ์ ที่ วาสนา นาน่วม เรียกว่า “ยกอก อึ๊บ”

ว่าจะมีการนำเอาพระราชปรารภไปประกาศบังคับใช้อย่างเต็มที่ แม้เจ้าหน้าที่หญิงก็จะต้องตัดผมสั้นเกรียนอย่างราชวัลลภด้วยหรือไม่

สศจ. ยกเอาเหตุบางอย่างว่ามีอดีตนักศึกษาหญิงที่เคยเป็นลูกศิษย์ลูกหาบางคน ซึ่งทำงานในสังกัดสำนักพระราชวังและสำนักองคมนตรี ที่ไม่ใช่งานรับผิดชอบทางทหารหรือกำลังพล หวาดหวั่นว่าตนจะต้องตัดผมสั้นด้วยหรือไม่

พอดีกับที่นักวิจารณ์การเมืองชาวอเมริกันเลือดไทย เห็นข่าวเรื่องการตัดผมออกมา flood อยู่บนหน้า News feed ก็เลย” กระโดดเข้ามาร่วมวงสนทนาสาธารณะด้วย อ้างว่า “จะได้ไม่ตก Trends..” โดยนำ “เรื่องทรงผมของประเทศที่ท่านผู้นำคิมบริหารกิจการอยู่” มาเล่าไว้ น่าสนใจอยู่

ดร.ดวงจำปา สเป็นเซอร์ ไอเซ็นเบิร์ก (กุ้ง) ข้าราชการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ นำภาพแบบทรงผมที่รัฐบาลเกาหลีเหนือกำหนดให้ประชาชนทั้งชายและหญิงเลือกตัดอย่างใดอย่างหนึ่ง ห้ามผิดแผกไปจากแบบเหล่านั้น มาลงให้ชมกันทางเว็บไซ้ท์ ไมนด์

เธอว่าในสมัยของคิม จอง อิล ผู้เป็นพ่อของผู้นำสูงสุดคนปัจจุบัน เพศชายมีทรงผมให้เลือก ๑๐ แบบ หญิง ๑๘ แบบ โดยหญิงที่แต่งงานแล้วสามารถเลือกแบบที่วิลิศมาหราได้มากกว่าสาวโสด ส่วนชายถ้ายังหนุ่มให้ผมยาวไม่เกิน ๕ ซม. แก่หน่อยเพิ่มอีก ๒ ซม. เป็น ๗ ซม. ข้อสำคัญต้องตัดผมทุก ๑๕ วัน

พอมาถึงสมัยของคิม จอง อุน ผู้ที่ถูกประธานาธิบดีทรั้มพ์บริภาษณ์ทางทวิตเตอร์ว่า “อ้วนและเตี้ย” นั้น เขาปรับเปลี่ยนระเบียบเล็กน้อย มีลดตัวเลือกทรงผมฝ่ายหญิงไปเพิ่มให้ฝ่ายชาย เป็นข้างละ ๑๕ แบบเท่ากัน โดยมีการออกแบบทรงผมใหม่หลายแบบไม่เหมือนกันกับสมัยของพ่อ

ก็น่าจะเป็นธรรมดาของผู้สืบทอดตระกูล (และอำนาจ) คนใหม่ย่อมอยากเปลี่ยนแปลงแก้ไขของเก่าบ้างไม่มากก็น้อย

ดูอย่างประธานาธิบดีทรั้มพ์ของสหรัฐ ยังพยายามจะยกเลิกนโยบายและผลงานต่างๆ ที่ประธานาธิบดีโอบาม่าทำไว้เกือบจะทุกอย่าง ได้บ้างไม่ได้บ้างขอให้ได้รื้อทิ้งของเก่าเสียก่อนก็แล้วกัน แม้นว่าของใหม่จะ ห่วยแตก กว่าเก่าก็ตาม