วันเสาร์, กันยายน 16, 2560

เรือเหาะปลดระวางยังไม่ได้ใช้ ถามง่ายๆ "ถ้าเป็นเงินของตัวเอง จะใช้จ่ายกันอย่างนี้มั้ย”

เอาแระ พอพี่ป็อกโดนหนักน้องตุ่นก็ออกอาการ ฟาดหัวฟาดหางพาลดะ “เคยมีมั้ยที่ประเทศไหนทำ

ก็มีแต่ประเทศไทยนี่แหละที่คนอยู่ในคดีออกมาพูดทุกวัน คดีกองเป็นหลายๆ คดีแต่ก็ยังออกมาพูด สื่อเองก็นำเสนอข่าวแล้วก็เอามาใส่ผม แล้วผมก็ต้องสวนกลับไป ทางโน้นก็สวนกลับมา สนุกกันนักหรืออย่างไร...

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวอย่างมีอารมณ์ฉุนเฉียวหลังตอบคำถามถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้”

เรียงคำตามรายงานของ Wassana Nanuam แล้วก็ยังไม่รู้ว่าเขาพูดถึงใครที่โดนหลายคดี จะว่าจิรายุ (รองโฆษกเพื่อไทย) ก็คงไม่ใช่ วัฒนา เมืองสุข ก็ไม่เชิง ต้องคนที่พูดเรื่องนี้ตรงๆ น่าจะเป็น ปิ๊สิทธิ์ ที่โดนคดี “...สั่งฆ่า...สั่งยิง” อยู่หลาย แม้นว่าพวก ตลก. จะช่วยกันดันให้หลุดเกือบหมดก็ตาม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีในยุคที่จัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ รุ่น Aeros 40D S/N 21 หรือ Sky Dragon ได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว

ระบุว่า ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ ว่าการจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์เป็นเรื่องนโยบายที่ฝ่ายความมั่นคงเสนอมา

ที่มันน่าฉุนตรงที่อดีตนายกฯ ทหารช่วยตั้งกับมือบอกว่า “รายละเอียดต่างๆ อยากจะให้ทางผู้เกี่ยวข้องกองทัพเป็นคนชี้แจงเอง...

ส่วนเรื่องที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเรือเหาะไม่เหมาะกับประเทศไทยนั้นฝ่ายมั่นคงยืนยันว่าสามารถใช้งานได้เหมาะสม และถือว่าเป็นบทเรียนในการจัดซื้อในอนาคตต่อไป


บทเรียนอะไร ซื้อมาราคา ๓๕๐ ล้านแล้วไม่ได้ใช้ “ไม่ต้องถามว่าบินขึ้นหรือไม่ เพราะบินที่อู่ตะเภาจนนักบินบินได้ทุกคนแล้ว ไม่ต้องห่วง ที่เขาห่วงคือการส่งสัญญาณซึ่งขณะนี้ก็เรียบร้อยหมดแล้ว” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แจงว่ากล้อง ๕ ตัวถอดเอาไปใช้กับเฮลิค้อปเตอร์ได้

แต่ปัญหาที่ไม่ได้ใช้เพราะ “เจ้าหน้าที่ยังไม่พอใจเรื่องการบินจึงยังไม่ยอมตรวจรับ” อดีต ผบ.ทบ.สมัยนั้น ตอบนักข่าวอย่างฉุนๆ เหมือนกัน นั่นละ ไม่รู้ทำไม “ยังไม่ตรวจรับ” ของดีๆ อย่างนี้ ดีกว่า จีที-๒๐๐ ตั้งเยอะ

แล้วตานี้เรื่องมันไปถึง สตง. “แม้ว่ากองทัพบกจะให้เหตุผลว่าหมดอายุการใช้งานแล้ว แต่ด้วยหน้าที่ของ สตง. ยังคงต้องตรวจสอบว่าการใช้งานเป็นอย่างไร มีความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯ สตง. ดันแอ่นรับรักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ “ได้เรียกร้องให้สตง.ช่วยทำความจริงให้ปรากฏ และสรุปผลออกมาเพื่อเป็นบทเรียนของประเทศ” ซะงั้น


มันน่าอยู่หรอก อย่างที่ Pipob Udomittipong คอมเม้นต์ “ตั้งแต่ซื้อมาขึ้นบินไม่เกินสิบครั้ง บินสูงไม่เคยเกินพันเมตร (ตามสเป็ค ต้องบินได้ ๒,๐๐๐ เมตรขึ้นไป)

ค่าใช้จ่ายในการทดลองบินครั้งละสองแสน จ่ายค่าซ่อมไปอีก ๕๐ ล้าน รวมราคาทั้งหมด ๔๐๐ ล้านถามบิ๊ก ป๊อก ๆ บอกจำไม่ได้ ถามบิ๊กตู่ ๆ บอกเรื่องในอดีตไม่ต้องมาพูดถึง

ถ้าเป็นเงินของตัวเอง จะใช้จ่ายกันอย่างนี้มั้ย” ใช่เลย เหมือนที่ ชัยวุฒิ สุวรรณโณ เขาว่า “สามปี คสช. งบฯ ดับไฟใต้เฉียดแสนล้านบาท

แต่กำลังพลผู้ลงปฏิบัติงานในพื้นที่ต้องขอบริจาคซื้อไฟฉายถูกๆ ไว้ทำงาน และเคยได้ข้อมูลว่าเสื้อเกราะก็มีใส่ไม่ครบคน ต้องไปเอาแผ่นสังกะสีมาตัดใส่ไว้ในอกเสื้อทั้งที่รู้ว่าไม่ได้ช่วยอะไร”

กรณีดังกล่าว ด.ต.อนิรุทธ จันทะวงษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กับส.ต.ธเนตร พุทโธ เจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๔๗ สองคนเสียชีวิตในเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่ อ.กาบัง จ.ยะลา

แล้วมีคนพบว่า ด.ต.อนิรุทธเคยโพสต์เฟชบุ๊ค ขอรับแบ่งปัน ไฟฉายไว้สำหรับใช้งานลุยๆ ที่ราคาไม่แพงจนเกินไปมีความสว่างมาก ขนาดเล็กพกพาติดตัวไปได้สะดวก


ร้ายกว่านั้นเมื่อไม่นานมานี้ “ศอ.บต.ใช้งบ ๑๐๐ ลบ.ซื้อโรงแรมชางลีทำออฟฟิศใหม่ ทั้งที่มีที่ทำการเดิมอยู่แล้วในตัวเมืองยะลาและไม่ไกลกัน”